ลูกค้าคนแรกของเราในเดือนกันยายน: ฝันสู่ความสำเร็จด้วยการพูดที่ช้าลง”

ต่อจากข้อความที่แล้วอีกเหตุผลนึงที่ต้องการเอานิวโรฟีดแบคเข้ามา น้องอายุ 20 กว่า เรียนมหาลัยแล้วโดนบูลี่ ไม่มีเพื่อน ถูกไดแอดว่าเป็นแอสเพอร์เกอร์ จะไม่มีวันกลับไปเรียนหนังสือได้ วันนั้นเห็นคุณแม่น้องร้องไห้หนักมาก เลยคุยกับคุณแม่ว่าต้องมีวิธีที่ทำให้หายซิ เลยนำเข้าโปรแกรมนี้มา ระหว่างเซ็ตอัพ คือบอกหลายๆคนว่าจะเปิดศูนย์เทรนสมอง นิวโรฟีดแบค  ปรากฎว่าไม่มีใครรู้จักเลย สักคนเดียว คิดอะไรไม่ออกเลยไปฟิตเนต เจอพี่คนนึงเลยคุยกันว่าเรากำลังจะเปิดศูนย์เทรนสมองนะ พี่เลยไปบอกเพื่อนบ้านน้องอายุ 3 ขวบ กว่า พูดไม่ได้ เป็นลูกครึ่งสิงค์โปร คุณแม่น้องโทรมาจะขอนัดเทรน เราบอกคุณแม่ว่า เรายังไม่เปิดเป็นทางการยังไม่ได้เซ็ตราคาเลย ขอยังไม่รับคุณแม่น้องเกิดอาการงอนนิดหน่อย คือยังไม่ได้เปิดเลยลูกค้าโกรธแล้ว ก็เลยให้น้องเข้าวิเคราะห์สมอง และเริ่มเทรน  พอครั้งที่ 5 น้องพูดได้หนึ่งประโยค ทุกคนงงและคิดว่าเป็นความบังเอิญไม่ใช่เพราะ นิวโรฟีดแบคแอบคิดไม่ให้เครดิตเราเลย(คิดในใจ) น้องเทรนไป 48 ครั้งพูดได้ปกติ ซึ่งพวกเราดีใจมาก คือเป็นความสุขที่บรรยายเป็นตัวหนังสือยากนะ ประมาณว่าปลื้มซึ่งปัจจุบันน้องอายุ 11 ปีพูดได้ 3ภาษา ไทย อังกฤษ จีน   เขียนได้ด้วย ซึ่งเคสนี้เป็นเคสแรก พูดช้า ของเชียงใหม่นิวโรฟีดแบค

ต่อไปจะเป็นข้อมูลสำหรับผู้ปกครอง เรื่องความล่าช้าทางภาษาในเด็กวัยหัดเดิน วันนี้แค่นี้ก่อนนะ